ไผ่เงิน ต้นไม้เสริมมงคล
ไผ่เงินแคระ
ลักษณะ
ใบเรียวยาว สีเขียวสลับขาว รูปทรงพุ่มเตี้ย
ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ จากลำต้นแม่
มีลักษณะคล้ายต้นไผ่ปกติ
แต่มีขนาดเล็ก จึงนิยมปลูกประดับภายในสวนหรือบ้านเรือน
การปลูกต้นไผ่เงิน
ปลูกง่ายดูแลง่าย เนื่องจากไผ่เงินเป็นต้นไม่ที่เจริญเติบโตได้ดี
ไม่จำเป็นต้องดูแลรักษามากมาย เหมาะสำหรับผู้ต้องการปลูกต้นไม้แต่ไม่ค่อยมีเวลาเอาใจใส่
สามารถปลูกได้ทั้งในกระถ่าง และปลูกลงดิน
สำหรับการปลูกในกระถ่าง การรดน้ำควรรดน้ำสม่ำเสมอ
สำหรับปลูกลงดิน ไม่จำเป็ต้องดูแลรักษามาก อาจจะต้องดูแลในระยะแรก ๆ เป็นประจำ
แต่พอลำต้นแข็งแรง ก็เจริญเติบโตได้ดีเอง ไม่ต้องดูแลมาก
ปุ๋ยที่ใช้ควรเป็นปุ๋ยบำรุงใบ แต่ที่แนะนำน่าจะใช้ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกหน้าจะเหมาะสมกว่า
การขยายพันธุ์
ไผ่เงินแคระ ขยายพันธุ์โดยวิธีแยกหน่อ
ปลูกง่ายมาก แยกแล้วนำไปเพาะชำให้ต้นแข็งแรงสมบูรณ์ สามารถนำไปลงดิน หรือใส่กระถางได้
ประโยชน์ของไผ่เงิน
ตามหลักการเสริมสิริมงคลภายในบ้าน
ต้นไผ่เป็นไม้มงคลสำหรับเสริมเรื่องอายุ ตามทัศนคติของชาวจีน
ตามทัศนคติของชาวไทย ต้นไผ่เป็นไม้มงคล ทำให้ร่มเย็น มีความสามัคคีภายในบ้าน
และไผ่เงิน ยังเสริมมงคลด้านโชคลาภอีกด้วย
ลองหามาปลูกกันนะครับ
วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ดอกเปลวเทียน/ดอกไม้สกุลหน้าวัว
เปลวเทียน
ลักษณะ
เปลวเทียนเป็นพันธุ์ไม้สกุลหน้าวัว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมาก
เปลวเทียนแตกต่างจากหน้าวัว ตรงดอกมีลักษณะแตกต่างกัน
เปลวเทียนมีจานรองดอก ยาวเรียวรี คล้ายกับเปลวเทียน
จึงเรียกชื่อว่า เปลวเทียน
ถิ่นกำเนิดของเปลวเทียน
ทวีปอเมริกาเหนือ มีลักษณะอากาศร้อนชื่น
การปลูกเปลวเทียน
เปลวเทียนเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา คือ ชอบอากาศแบบร้อนชื่น
การปลูกจึงอาศัยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยนำกระถางเตรียมสำหรับปลูกต้นไม้รองก้นกระถาง
จากนั้นใส่ขุยเปลือกมะพร้าว ถ่านบดละเอียดเล็กน้อย จากนั้นแนกกล้าเปลวเทียนมาเพาะชำ
รดน้ำพอประมาณ สัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง หรือสังเกตจากดิน
ถ้าแห้งมากก็รดได้ ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาตายตัว
ปุ๋ยที่ใช้บำรุง ควรใช้ปุ๋ยหมักจะดี ลดการใช้ปุ๋ยเคมี (สำหรับปลูกประดับในบ้าน)
การขยายพันธุ์เปลวเทียน
อาศัยการแยกหน่อ เนื่องจากเปลวเทียนจะแตกกอออกมาเพื่อให้เราขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
หรือเพาะเมล็ดก็ได้
เปลวเทียนจัดเป็นพืชไม้ดอกเศรษฐกิจอีกชนิดที่นิยมตัดดอกขาย
เนื่องจากความต้องการของตลาดมีสูง ดอกทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี
เหมาะสำหรับนำไปตกแต่งสถานที่
ลักษณะ
เปลวเทียนเป็นพันธุ์ไม้สกุลหน้าวัว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันมาก
เปลวเทียนแตกต่างจากหน้าวัว ตรงดอกมีลักษณะแตกต่างกัน
เปลวเทียนมีจานรองดอก ยาวเรียวรี คล้ายกับเปลวเทียน
จึงเรียกชื่อว่า เปลวเทียน
ถิ่นกำเนิดของเปลวเทียน
ทวีปอเมริกาเหนือ มีลักษณะอากาศร้อนชื่น
การปลูกเปลวเทียน
เปลวเทียนเหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา คือ ชอบอากาศแบบร้อนชื่น
การปลูกจึงอาศัยเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ โดยนำกระถางเตรียมสำหรับปลูกต้นไม้รองก้นกระถาง
จากนั้นใส่ขุยเปลือกมะพร้าว ถ่านบดละเอียดเล็กน้อย จากนั้นแนกกล้าเปลวเทียนมาเพาะชำ
รดน้ำพอประมาณ สัปดาห์ละ 3 - 4 ครั้ง หรือสังเกตจากดิน
ถ้าแห้งมากก็รดได้ ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาตายตัว
ปุ๋ยที่ใช้บำรุง ควรใช้ปุ๋ยหมักจะดี ลดการใช้ปุ๋ยเคมี (สำหรับปลูกประดับในบ้าน)
การขยายพันธุ์เปลวเทียน
อาศัยการแยกหน่อ เนื่องจากเปลวเทียนจะแตกกอออกมาเพื่อให้เราขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
หรือเพาะเมล็ดก็ได้
เปลวเทียนจัดเป็นพืชไม้ดอกเศรษฐกิจอีกชนิดที่นิยมตัดดอกขาย
เนื่องจากความต้องการของตลาดมีสูง ดอกทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี
เหมาะสำหรับนำไปตกแต่งสถานที่
วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
แซนเดอร์โซเนีย/ดองดึงกระดิ่ง
ต้นแซนเเดอร์โซเนีย
ชื่อเรียกอื่น ๆ
แซนเดอร์โซเนีย
ต้นระฆังคริสมาสต์
ดองดึงกระดิ่ง
ต้นโคมจีน
Sandersonia
จัดอยู่ในวงศ์ Colchicaeae
ถิ่นกำเนิด แอฟริกาใต้
ลักษณะ
ต้นแซนเดอร์โซเนีย
ใบมีลักษณะสีเขียวเรียวยาว ตรงปลายใบแหลม คล้ายกับต้นดองดึง
ลำต้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ครึ่งเซนติเมตร
ดอกมีสีเหลือง ส้ม ลักษณะดอกมีรูปทรงกลมแฉกตรงโคนดอก ปลายดอกคอดเข้าหากันเล็กน้อย
คล้ายกับระฆัง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ต้นระฆังหรือกระดิ่งคริสมาสต์
การปลูกและการขยายพันธุ์
พืชล้มลุก นิยมเพาะเมล็ดในการขยายพันธุ์ ซึ่งเจริญเติบโตได้ดี
ในประเทศไทยเรา มีการขยายพันธุ์ และมีจำหน่ายตามร้านขายพันธุ์ไม้โดยทั่วไป
การให้น้ำควรให้พอประมาณ เช้าเย็นพอชุ่ม...
ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป อาจทำให้หัวของต้นแซนเดอร์โซเนียเน่าได้
การให้ปุ๋ยใช้ปุ๋ยหมัก บำรุงต้นและดอก
ทิศทางอนาคต
ดอกแซนเดอร์โซเนีย นับว่าเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม
ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยวิธีการเพาะเมล็ด
การปลูกในประเทศไทยนับว่าเจริญเติบโตได้ดีเพาะชอบอากาศร้อนชื่น
จึงสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ทิศทางการตลาดของดอกชนิดนี้นับว่าไปได้ดีแน่นอน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดูแลมาก
สามารถปลูกได้ทั้งในอาคาร ใช้พื้นที่น้อย
เหมาะสำหรับการปลูกเป็นไม้ประดับบริเวณบ้าน
สำหรับผู้สนใจนำมาดอกไม้แซนเดอร์โซเนียปลูก ก็อย่าลืมศึกษาวิธีปลูกเพิ่มเติมนะครับ
ชื่อเรียกอื่น ๆ
แซนเดอร์โซเนีย
ต้นระฆังคริสมาสต์
ดองดึงกระดิ่ง
ต้นโคมจีน
Sandersonia
จัดอยู่ในวงศ์ Colchicaeae
ถิ่นกำเนิด แอฟริกาใต้
ลักษณะ
ต้นแซนเดอร์โซเนีย
ใบมีลักษณะสีเขียวเรียวยาว ตรงปลายใบแหลม คล้ายกับต้นดองดึง
ลำต้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ครึ่งเซนติเมตร
ดอกมีสีเหลือง ส้ม ลักษณะดอกมีรูปทรงกลมแฉกตรงโคนดอก ปลายดอกคอดเข้าหากันเล็กน้อย
คล้ายกับระฆัง จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อว่า ต้นระฆังหรือกระดิ่งคริสมาสต์
การปลูกและการขยายพันธุ์
พืชล้มลุก นิยมเพาะเมล็ดในการขยายพันธุ์ ซึ่งเจริญเติบโตได้ดี
ในประเทศไทยเรา มีการขยายพันธุ์ และมีจำหน่ายตามร้านขายพันธุ์ไม้โดยทั่วไป
การให้น้ำควรให้พอประมาณ เช้าเย็นพอชุ่ม...
ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป อาจทำให้หัวของต้นแซนเดอร์โซเนียเน่าได้
การให้ปุ๋ยใช้ปุ๋ยหมัก บำรุงต้นและดอก
ทิศทางอนาคต
ดอกแซนเดอร์โซเนีย นับว่าเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงาม
ขยายพันธุ์ได้ง่ายโดยวิธีการเพาะเมล็ด
การปลูกในประเทศไทยนับว่าเจริญเติบโตได้ดีเพาะชอบอากาศร้อนชื่น
จึงสามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศ
ทิศทางการตลาดของดอกชนิดนี้นับว่าไปได้ดีแน่นอน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องดูแลมาก
สามารถปลูกได้ทั้งในอาคาร ใช้พื้นที่น้อย
เหมาะสำหรับการปลูกเป็นไม้ประดับบริเวณบ้าน
สำหรับผู้สนใจนำมาดอกไม้แซนเดอร์โซเนียปลูก ก็อย่าลืมศึกษาวิธีปลูกเพิ่มเติมนะครับ
ป้ายกำกับ:
ไม้ดอก,
ไม้ต่างประเทศ,
ไม้ประดับ,
ไม้ล้มลุก,
ไม้หัว
วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
เจอบีร่า/เยอบีร่า
ไม้ดอกไม้ประดับในบ้าน
เยอบีร่า
ถิ่นกำเนิด แอฟริกาใต้
ลักษณะ
ไม้ล้มลุก
ลำต้นสีเขียวแก่ มีขนละเอียดติดตามก้านใบ
ดอกมีลักษณะซ้อนกันเป็นชั้น ๆ โดยแบ่งเป็นชั้นนอกและชั้นใน
ชั้นในประกอบไปด้วยเกสรและกลีบดอกขนาดเล็กเรียวรี
ชั้นนอกประกอบไปด้วยกลีบดอกเรียวรีเล็ก ๆเรียงกันตามขอบของเกสร
ให้สีสันสดใส
มีสี หลากสีตามสายพันธุ์ เช่น สีขาว สีเหลือ สีแดง สีส้ม เป็นต้น
ขนาดดอกประมาณ 7 - 15 เซนติเมตร
ความสูงประมาณ 30 กว่าเซนติเมตร
การปลูกและการขยายพันธุ์
การปลูกวิธีการเพาะเมล็ด
เจริญเติบโตได้ดี
ชอบแสงแดดพอประมาณ
การปลูกจึงควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดพอสมควร
โดยอาจสร้างโรงเรือน หรือถ้าปลูกประดับรอบ ๆ บริเวณบ้านควรปลูกในที่แสงแดดพลาง ๆ
จะทำให้ดอกและต้นสวยสด
การดูแลรักษา
เยอบีร่า ชอบน้ำพอประมาณ ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป และควรให้พอชุ่มชื่น
ปุ๋ยที่ใช้ก็ควรเป็นปุ๋ยหมัก
นิยมปลูกเพื่อขายดอก
เนื่องจากเยอบีร่า มีดอกที่ทนนานไม่เหี่ยวง่ายจึงเหมาะสำหรับ
จัดช่อดอกไม้
ภาคที่ปลูกมาก คือ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
และภาคอื่น ๆ ก็สามารถปลูกได้เช่นกัน
สำหรับสายพันธุ์เยอบีร่า
มีหลายสายพันธุ์มาก โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่คนไทยนำมาปรับปรุงพันธุ์ให้สีสันสดสวยมากขึ้น เช่น
สีขาว สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีชมพู สำหรับสายพันธุือื่น ๆ จากต่าง ๆประเทศก็มีลักษณะคล้ายกัน
ลองหามาปลูกกันนะครับ
เยอบีร่า
ถิ่นกำเนิด แอฟริกาใต้
ลักษณะ
ไม้ล้มลุก
ลำต้นสีเขียวแก่ มีขนละเอียดติดตามก้านใบ
ดอกมีลักษณะซ้อนกันเป็นชั้น ๆ โดยแบ่งเป็นชั้นนอกและชั้นใน
ชั้นในประกอบไปด้วยเกสรและกลีบดอกขนาดเล็กเรียวรี
ชั้นนอกประกอบไปด้วยกลีบดอกเรียวรีเล็ก ๆเรียงกันตามขอบของเกสร
ให้สีสันสดใส
มีสี หลากสีตามสายพันธุ์ เช่น สีขาว สีเหลือ สีแดง สีส้ม เป็นต้น
ขนาดดอกประมาณ 7 - 15 เซนติเมตร
ความสูงประมาณ 30 กว่าเซนติเมตร
การปลูกและการขยายพันธุ์
การปลูกวิธีการเพาะเมล็ด
เจริญเติบโตได้ดี
ชอบแสงแดดพอประมาณ
การปลูกจึงควรปลูกในที่ที่มีแสงแดดพอสมควร
โดยอาจสร้างโรงเรือน หรือถ้าปลูกประดับรอบ ๆ บริเวณบ้านควรปลูกในที่แสงแดดพลาง ๆ
จะทำให้ดอกและต้นสวยสด
การดูแลรักษา
เยอบีร่า ชอบน้ำพอประมาณ ไม่ควรให้น้ำมากเกินไป และควรให้พอชุ่มชื่น
ปุ๋ยที่ใช้ก็ควรเป็นปุ๋ยหมัก
นิยมปลูกเพื่อขายดอก
เนื่องจากเยอบีร่า มีดอกที่ทนนานไม่เหี่ยวง่ายจึงเหมาะสำหรับ
จัดช่อดอกไม้
ภาคที่ปลูกมาก คือ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย
และภาคอื่น ๆ ก็สามารถปลูกได้เช่นกัน
สำหรับสายพันธุ์เยอบีร่า
มีหลายสายพันธุ์มาก โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่คนไทยนำมาปรับปรุงพันธุ์ให้สีสันสดสวยมากขึ้น เช่น
สีขาว สีเหลือง สีแดง สีส้ม สีชมพู สำหรับสายพันธุือื่น ๆ จากต่าง ๆประเทศก็มีลักษณะคล้ายกัน
ลองหามาปลูกกันนะครับ
วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554
ดาหลา/ดอกไม้เศรษฐกิจ
ดาหลา
ลักษณะ
ดอกไม้สีสันสวยงาม มีลักษณะกลีบดอกซ้อนเป็นชั้น กลีบแข็งแรงทนทาน
เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ตระกูลหัวหรือเหง้า ลำต้นสูง ใบสีเขียว ลำต้นคล้ายต้นข่า
ดอกมีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีชมพู สีแดง สีขาว
การขยายพันธุ์
สามารถขยายพันธุ์ด้วยการแยกเหง้า หรือแยกหน่อ
แล้วนำไปเพาะชำ
การดูแลรักษา
สำหรับการปลูกต้นดาหลา ปลูกง่ายและดูแลง่ายมาก
เนื่องจากดาหลา เป็นพืชที่ชอบน้ำ ชอบพื้นที่ชุ่มชื่น
ทำให้เจริญเติบโตได้ดี
จึงมั่นรดน้ำเป็นประจำ
ศัตรูพืชไม่ค่อยมี
ประโยชน์ดาหลา
สามารถเพาะชำต้นกล้าดาหลาขาย
ตัดดอกขาย เนื่องจากดอกดาหลาสามารถทนได้นาน
เหมาะสำหรับการจัดดอกไม้ ดอกแข็งแรง สีสันสดใส
ปลูกดาหลาง่ายมากๆ ลองไปหามาปลูกกันนะครับ ปลูกง่ายจริง
ลักษณะ
ดอกไม้สีสันสวยงาม มีลักษณะกลีบดอกซ้อนเป็นชั้น กลีบแข็งแรงทนทาน
เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว ตระกูลหัวหรือเหง้า ลำต้นสูง ใบสีเขียว ลำต้นคล้ายต้นข่า
ดอกมีหลายสีตามสายพันธุ์ เช่น สีชมพู สีแดง สีขาว
การขยายพันธุ์
สามารถขยายพันธุ์ด้วยการแยกเหง้า หรือแยกหน่อ
แล้วนำไปเพาะชำ
การดูแลรักษา
สำหรับการปลูกต้นดาหลา ปลูกง่ายและดูแลง่ายมาก
เนื่องจากดาหลา เป็นพืชที่ชอบน้ำ ชอบพื้นที่ชุ่มชื่น
ทำให้เจริญเติบโตได้ดี
จึงมั่นรดน้ำเป็นประจำ
ศัตรูพืชไม่ค่อยมี
ประโยชน์ดาหลา
สามารถเพาะชำต้นกล้าดาหลาขาย
ตัดดอกขาย เนื่องจากดอกดาหลาสามารถทนได้นาน
เหมาะสำหรับการจัดดอกไม้ ดอกแข็งแรง สีสันสดใส
ปลูกดาหลาง่ายมากๆ ลองไปหามาปลูกกันนะครับ ปลูกง่ายจริง
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)